นี่คือต้นฉบับนะคะ>>> http://charlotteschaos.livejournal.com/371976.html

[Title] Snack
[Author] charlotteschaos
[Pairing] Hannibal/Will
[Fandom] Hannibal NBC (TV)
[Rating] NC-17
[Warnings] Slash, dubcon
[Disclaimer] No profit is being made off of this story. Characters belong to NBC, Bryan Fuller, and Thomas Harris.
[Genre] angst/dark/pwp
[Summary] Inspired by the series, a notion of an interaction in one of Hannibal and Will’s “chats.”
[Summary] Note, this is inspired by the show, not the book so it will read with similar characterizations but obviously the show is its own animal. If you haven’t seen it, get started.
[Word Count] 1700
[Beta] prettyclever

 [Thai translation by] Bepine



หมายเหตุ1 : เป็นฟิคแปลเรื่องแรกค่ะ ไม่ได้แปลตรงตัวแป๊ะๆ และบางคำก็อาจมีแปลผิดได้นะคะ T__T #ไม่ไหวกับตัวเองอย่างแรง จะอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษเลยก็ได้ค่ะ

 หมายเหตุ2 : ได้ทำการขออนุญาติผู้แต่งมาแล้วนะคะ จิ้ม




[วิลกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังในออฟฟิตของคุณหมอฮันนิบาลค่ะ]

.

.

.

.

“ไม่ครับ ดร.เล็คเตอร์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมพูดเลย” วิล เกรแฮม ถูมือทั่วใบหน้าของเขา ในขณะที่เก้าอี้หนังก็ส่งเสียงตามการขยับตัวของเขา ชักสงสัยว่าจิตแพทย์คนนี้ชอบที่จะใช้เก้าอี้กระตุ้นอารมณ์ของคนอื่นหรือย่างไร นี่มันเป็นการทดสอบความอดทนของเขาด้วยหรือเปล่า?

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับ ฮันนิบาล เล็คเตอร์ ให้ความรู้สึกเหมือนการตรวจสอบอะไรซักอย่างอย่างละเอียด บางที....มันคงจะเป็นผลจากอาชีพของเขาที่เป็นแพทย์มาก่อนที่จะมาเป็นจิตแพทย์

วิลมีอิสระที่จะไม่คุยหรือปรึกษากับ ดร.เล็คเตอร์ แต่เขามาหาคนๆนี้เพื่อที่จะพูดคุยและปรึกษาด้วยเสมอ เขาเรียก ดร.เล็คเตอร์ ว่าหมอ แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในการรักษาอย่างเป็นทางการนัก มันช่างเป็นความแตกต่างที่ค่อนข้างจะน่าสงสัยและสับสน นอกจากนี้เขายังต้องพบกับ ดร.เล็คเตอร์ ในช่วงเวลาที่มีธุระมากมาย แต่พวกเขาทั้งสองคนก็ยังพอที่จะเป็นเพื่อนกันได้

เพื่อน....พวกเขาก็ไม่ใช่เพื่อนกันเสียทีเดียว เพราะถ้าพวกเขาเป็นเพื่อนกันละก็ วิลจะไม่เรียกอีกฝ่ายว่า หมอ

วิลบอกอีกฝ่ายว่า ดร.เล็คเตอร์ เป็นคนที่เขาอยากจะปรับทุกข์ด้วยมากที่สุด มากกว่าใครทั้งนั้น เขาชอบที่จะหลอกตัวเองว่าสิ่งที่ ดร.เล็คเตอร์ ปฎิบัติกับเขามันไม่ใช่การกระทำในแบบปกติที่จิตแพทย์กระทำต่อคนไข้ เพราะวิลรู้จักทุกทริก เขาเข้าใจวิธีการทางจิตแพทย์ที่จะทำให้คนไข้เปิดใจ แต่วิธีการของ ดร.เล็กเตอร์ที่ใช้กับเขามันไม่ใช่

ดร.เล็กเตอร์มักจะคอยอยู่ข้างๆเขา และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจดีว่าวิลได้ผ่านอะไรมาบ้าง สำหรับวิล มันทำให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้น แต่หลังจากที่วิลออกจากออฟฟิตของคุณหมอ เมื่อประตูออฟฟิตของอีกฝ่ายปิดลง วิลกลับรู้สึกเหมือนมีกำแพงขนาดมหึมามากั้นเขาไว้ ซึ่งวิลก็บอกไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไรและเขาก็เหนื่อยเกินไปที่จะพยายามเข้าใจมัน

นั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรู้สึกปลอดภัยเมื่อยู่กับ ดร.เล็คเตอร์  เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เป็นพวกemote (พวกที่แสดงความรู้สึกออกมามากจนเกินจริง) ต่างจากในคนปกติมักจะกระตือรือร้นที่จะพูดคุยมากกว่ารับฟัง

เป็นรอบหนึ่งปีที่ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับคนๆนี้ วิลไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงของตัวเองในหัวเขาด้วยซ้ำไป

ดูเหมือนว่า ดร.เล็คเตอร์ ต้องการจะฟังเนื้อหามากกว่าการเสนอความคิดเห็นของตนเกี่ยวกับการสืบสวนคดีของเขา

ทั้งๆที่มันควรจะเป็นสิ่งที่วิลต้องรำคาญแท้ๆ แต่มันก็ไม่ใช่ ตรงกันข้าม มันกลับให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ

พวกเขานั่งบนเก้าอี้หนังสีดำที่อยู่ตรงข้ามกันโดยที่โน้มตัวไปข้างหน้ากันทั้งคู่ ขณะที่วิลรับรู้ถึงเสียงน่ารำคาญที่เกิดจากเก้าอี้ของเขาเอง และ ดร.เล็คเตอร์ ไม่ได้เข้าใจถึงความเงียบอันสมบูรณ์แบบของเก้าอี้ที่เจ้าตัวนั่งเลยแม้แต่น้อย(อธิบายเป็นคำพูดไทยให้สละสลวยไม่ออกจริงๆค่ะ)

ดร.เล็คเตอร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ของเขา แล้วก้าวเท้าอย่างนุ่มนวลมาที่เก้าอี้ของวิล

แปลก....โดยปกติแล้วเมื่อวิลกำลังรู้สึกจมดิ่ง ดร.เล็คเตอร์จะเดินออกจากห้องไป ให้ห้องนี้แก่เขา ให้เขาได้อยู่ตามลำพัง ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ดีกว่า ต้องทำอย่างไรวิลจึงจะสามารถกลับขึ้นมาได้

วิลหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกอัดแน่นในหน้าอกของเขา นี่ไม่ใช่รูปแบบแบบแผน หากแต่เป็นพฤติกรรมของมนุษย์ทั่วไป วิลแสดงสีหน้าไม่สบายใจออกมา มีคนๆหนึ่งเข้ามาใกล้เขา สัมผัสเขา มอบความรู้สึกผ่อนคลายให้ ความรู้สึกกังวลที่มีอยู่ถูกหอบออกไป มันทำให้เขาสามารถบอกได้ว่าเขาโอเค

ดร.เลคเตอร์คุกเข่าลงด้านหน้าของวิล เริ่มสังเกตและประเมินเขาด้วยหลักจิตวิทยาพื้นฐาน

“วิล คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง” ลมหายใจของ ดร.เล็คเตอร์ผสมปะปนกับกลิ่นไวน์ การดื่นแอลกอฮอล์ในที่ทำงานไม่ถือเป็นมืออาชีพซะเลย แต่นี่มันก็เลยเวลางานของอีกฝ่ายมาแล้ว นี่อีกฝ่ายกำลังเมาอย่างนั้นหรือ?

ซุ่มซ่าม....เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำลายอาณาเขตป้องกันของ ดร.เล็คเตอร์โดยสมบูรณ์ นั่นเป็นการเปิดโอกาสให้กับวิล เขาต้องการเค้นหาความจริงหรืออะไรบางอย่างจากอีกฝ่าย ต้องการทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แต่ถึงกระนั้นวิลก็ไม่ใช่คนหัวรุนแรง

วิลวางมือของเขาลงบนใบหน้าของอีกฝ่าย เขาจับจ้องมันและคาดว่าจะเจอความกังวล แต่ใบหน้าของ ดร.เล็คเตอร์ พยายามสังเกตแม้แต่สิ่งเล็กน้อยๆที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

วิลโน้มตัวไปข้างหน้าจนริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกันในเวลาอันสั้น... มันไม่ใช่จูบแต่เป็นเหมือนการกระทำทีเล่นทีจริงเสียมากกว่า แต่จูบนั่นก็ทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

กระนั้นการแสดงออกของ ดร.เล็คเตอร์ก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้มีอาการตื่นตกใจหรือคิดจะผลักไสเขาแต่อย่างใด แต่วิลรู้สึกว่าคิ้วของ ดร.เล็คเตอร์จะขมวดน้อยๆ ซึ่งวิลก็จำไม่ได้ว่าเขาเห็นมันจริงๆไหมหรือว่าเขาตาฝาดไปเอง

แต่อยู่ๆด้วยความเร็วอันไม่น่าเชื่อ มือของ ดร.เล็คเตอร์ก็โน้มคอวิลลงมาบดขยี้ริมฝีปากเข้าด้วยกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้อ่อนโยนหรือปัดผ่านเหมือนครั้งก่อน  ลิ้นร้อนถูกรุกรานเข้ามาในโพรงปากของวิล มันชื้นแฉะและอ่อนโยน ทั้งยังกวาดต้อนไปทั่วแต่ก็ไม่ได้รุกรานจนทำให้รู้สึกขยะแขยงเลยซักนิด ตรงกันข้าม....มันเหมือนการเชื้อเชิญ....

แก้มของวิลรู้สึกเหมือนถูกเผา มันร้อนเอามากๆ นี่ไม่ใช่สิ่งเขาต้องการจากการกระทำเพื่อทดสอบอีกฝ่ายเลยซักนิด ทุกอย่างมันไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการจากการฝ่าเกราะป้องกันของอีกฝ่าย วิลรู้สึกตัวว่าเขาเริ่มสั่น มันไม่มีความรักในอ้อมกอดของ ดร.เล็คเตอร์ มีแต่ความรุนแรง เอาแต่ใจ และป่าเถื่อน แต่น่าแปลกที่วิลเริ่มจะเคลิ้มไปตามความรู้สึกนั้นและยังโอบกอด ดร.เล็คเตอร์ไว้เหมือนเป็นที่พึ่ง

ไม่....นี่ไม่ใช่การเชื้อเชิญ.....แต่นี่เป็นความต้องการ

วิลผละริมฝีปากออก เขาเกลียดตัวเองที่อ่อนแอและคล้อยตามไปกับความรู้สึกแบบนี้ ป้อมปราการของเขาที่พังทลายลง และเขาเองที่เป็นคนเปิดประตูให้ ดร.เล็กเตอร์เข้ามาเพราะความเชื่อใจ และดร.เล็คเตอร์ก็ทำการล่อลวงทางกายภาพกับเขา....(ซึ่งมันได้ผลซะด้วยสิ)

เชื่อใจ....เขารู้เรื่องที่เกี่ยวกับ ดร.เล็คเตอร์เพียงพอแล้วเหรอ เลยไว้วางใจผู้ชายคนนี้?

ตัวเขาเองไม่มีเหตุผลมาสนับสนุนด้วยซ้ำ...หรือจริงๆแล้วเขาไม่คิดจะใช้เหตุผลทุกเหตุผลกับผู้ชายคนนี้ก็เป็นได้

นี่คือจิตใต้สำนึกของตัววิลเองอย่างนั้นหรือ?

ดร.เล็คเตอร์เป็นศัลยแพทย์ที่มีฝีมือ เขาจัดการแกะกระดุมแต่ละเม็ดบนเสื้อของวิลอย่างประณีตและรวดเร็ว จากนั้นมืออุ่นนั้นก็วางลงบนหน้าอกของวิล นิ้วมือของอีกฝ่ายวางลงตรงตำแหน่งหัวใจของวิล ขณะที่ค่อยๆเคลื่อนต่ำลง ลากผ่านไปในแต่ละจุด วิลเคยคิดจะคุยเรื่องthe Chesapeake Ripperกับอีกฝ่าย สัมผัสของ ดร.เล็คเตอร์ กระตุ้นความคิดของวิลเกี่ยวกับฆาตกรอย่างน่าประหลาด

หัวนมของวิลถูกบีบและ ดร.เล็คเตอร์ เลื่อนตัวลงเพื่อให้ใบหน้าของเขาอยู่ตำแหน่งเดียวกับมัน

วิลสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามหาคำพูดมาหยุดยั้งสถานการณ์นี้ แต่ดูเหมือนว่าสมองของเขาจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้เลยในเมื่อร่างการของเขากำลังถูกกระตุ้นอย่างหนัก

ก่อนที่วิลจะได้พูดอะไร ดร.เล็คเตอร์ก็จัดการหยุดเขาด้วยการกระทำอันแสนหยาบโลน โดยดึงกางเกงของวิลลงอย่างรวดเร็วและประกบปากกับเขา มันทำให้เขาไม่สามารถขัดขืนหรือกระทำการต่อต้านได้อีกต่อไป

สัมผัสของ ดร.เล็คเตอร์ ที่โจมตีเขาอยู่นั้นมันช่างเรียบง่าย แต่กลับแม่นยำและเน้นตรงจุดที่จะทำให้ร่างกายของวิลนั้นเกิดปฎิกิริยาอย่างยิ่งยวด วิลรู้สึกอับอาย แม้ว่าในหัวของเขาจะพยายามปฎิเสธสัมผัสเหล่านี้ แต่ร่างกายของเขามันทำตรงกันข้าม มันกำลังตอบสนอง...

ดร.เล็คเตอร์ถอนจูบออก วิลไม่แน่ใจว่านี่คือสิ่งที่เขาคาดหวังหรือไม่ หัวคิ้วของเขามุ่นลงเล็กน้อย และเมื่อวิลสบตากับอีกฝ่าย เขาพบกับดวงตาสีน้ำตาลเกือบแดงที่ไม่ได้ปรากฎแววขบขันหรือไม่พอใจเลยแม่แต่น้อย ที่จริงมันดูเหมือนกับว่า.....อีกฝ่ายกำลังหิว

ดร.เล็กเตอร์รูดซิปกางเกงของวิลลงอย่างแผ่วเบา และก่อนที่เขาจะตระหนักหรือประท้วงได้ ปากอุ่นๆของดร.เล็คเตอร์ก็จัดการกับแก่นกายของเขาไปเรียบร้อย มันกลืนกิน และขยับอย่างรวดเร็ว จนวิลรู้สึกเหมือนใกล้จะปลดปล่อย

วิลไม่ได้ต่อสู้หรือขัดขืนอีกต่อไป ตัวของเขาเหมือนจะละลายไปกับเก้าอี้ มีการสะดุ้งกับการดูดในบางครั้ง วิลจิกนิ้วของเขาลงบนเก้าอี้หนังที่เขานั่งอยู่ หัวใจของเขาเต้นถี่เหมือนคนที่พึ่งไปวิ่งแข่งมา มันไม่สำคัญแล้วว่าเขาต้องการจะปลดปล่อยออกมาหรือไม่ ดร.เล็คเตอร์รู้จักกลไกของร่างกายมนุษย์และรู้วิธีที่จะจัดการกับมัน

โดยปกติ ดร.เล็คเตอร์เป็นคนที่อ่านยาก แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับดูเหมือนสัตว์ป่าที่มีความต้องการ ดร.เล็คเตอร์ยังไม่ต้องการจะให้วิลปลดปล่อย เขาต้องการจะกินบางสิ่งบางอย่างในตัววิล นี่คือการให้อาหาร.....

ในช่วงเวลาอันสั้นที่วิลเพลิดเพลินไปกับความหฤหรรษ์เหล่านี้ ร่างทั้งร่างของเขาขดเกร็ง และปลดปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปในโพรงปากของ ดร.เล็คเตอร์

คุณหมอจัดการกับพวกมันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เขาดูดกลืนอย่างอ่อนโยนก่อนจะถอนปากออกจากแก่นกายของวิล ดร.เล็คเตอร์กวาดนิ้วหัวแม่มือที่มุมปากของเจ้าตัว ขณะที่ลิ้นของเขาเกลี่ยรอบริมฝีปากของตัวเองเหมือนว่าเขากำลังลิ้มรสมัน

วิลมองอีกฝ่าย หอบอย่างหนัก และหัวสมองเขากำลังตื้อไปหมด

“อย่าตกใจวิล นี่เป็นธรรมชาติ” ดร.เล็คเตอร์ดูจะไม่ตกใจเลยแม่แต่น้อย

“ผมไม่ได้ตกใจ”

ดร.เล็คเตอร์จ้องวิล มุมปากของเขากำลังยกยิ้มขึ้นน้อยๆ และวิลไม่แม้แต่จะพยายามหาทางออกไปจากสถานการณ์ตอนนี้

วิลยกมือขึ้นป้องใบหน้าของเขา ควบคุมลมหายใจของตัวเองให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก

“ผมแค่....ไม่คิดว่าคุณจะเป็น....ผมไม่ได้....ดึงดูดเพศชาย”

“วิล” ดร.เล็คเตอร์โบกมือกลางอากาศ “เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของเรา การเชื่อมต่อหรือทำตามแบบแผนของกลุ่มคนกลุ่มใหญ่นั้นมันไร้ประโยชน์ และผมจะไม่ปล่อยให้ความคิดเรียบง่ายแบบนี้มาพรากผมออกจากสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข”

“นั่นมันสำหรับคุณ แต่ไม่ใช่สำหรับผม” วิลดันอีกฝ่ายออก

ดร.เล็คเตอร์ถอยกลับไปที่เก้าอี้ของตัวเอง ดวงตาของอีกฝ่ายเหมือนนกที่กำลังจับจ้องมาที่วิล ทำให้วิลรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนอนน้อย

“นี่คงไม่รบกวนคุณหรอกนะวิล” ดร.เล็กเตอร์ถาม

“นี่มันทำให้ผมโล่งใจจริงๆ” วิลระบายลมหายใจออกจากปอด ขณะที่กำลังกลัดกระดุมเสื้อของเขา

“คุณไม่รู้สึกสนุกกับมันเลยหรือ?” อีกฝ่ายถาม

วิลตวัดสายตาของเขาขึ้นไปมอง ดร.เล็คเตอร์นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขา และพวกเขาก็กำลังกลับไปอยู่ในรูปแบบปกติที่คุ้นเคย

“ผมไม่ทราบ” วิลตอบ

ดร.เล็คเตอร์กลับมาผ่อนคลายอีกครั้ง

“งั้นก็มาเริ่มกันอีกครั้งเถอะ”

 End

จบค่ะ ^^" เราไม่แน่ใจนะคะว่าท่อนสุดท้ายที่ว่า Let’s move on then มันแปลว่า มาเริ่มกันเถอะ หรือเปล่า บอกตามตรงว่านี่แปลแบบเกือบจะมั่วเลยค่ะ กากภาษาอิ้งมาก แต่พอดีว่าต้องแปลให้เพื่อนอ่าน หวังว่าจะชอบกันนะคะ ผิดตรงไหนบอกกันด้วยนะคะ T[]T จะได้รีบมาแก้ไขให้ค่ะ